2552/10/09

My Diary in China 2003 # 1

ทักทายก่อนเริ่ม

ก่อนจะเข้าสู่บทความหรือะไรก็แล้วแต่คุณจะเรียก เอาเป็นว่า...เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่าใครเป็นใคร กลุ่มแก็งค์ไหน อยู่ห้องใด เวลาเม้าท์เพลินๆ ไป เห็นชื่อไหนก็จะได้รู้กัน เพราะวีรกรรมหมู่เราใช่น้อยเสียเมื่อไร แสบซ่าส์ยิ่งกว่ารุ่นไหนๆ เป็นยังไงต้องลองอ่านดู เดี๋ยวก็รู้รอเดี๋ยวนะค่ะ แล้วจะเผา เอ๋ยเม้าท์ให้ฟัง อิอิ เอาเป็นว่าขอแนะนำ กลุ่มแก็งค์ สมาคมก่อนนะจ๊ะ
My Gang เด็ก IBM บริหารธุรกิจระหว่างประเทศ
- ตัวเล็ก (อี้เหวิน) คนพูดน้อย รักสงบ ถึงจะไม่น่ารัก แต่นิสัยดี มีความเป็นมิตร ยามใครมาดี ก็ดีตอบ แต่ถ้าใครแสดงตัวไม่ชอบก็จะเฉยๆ โดยปกติจะไม่ค่อยมีปากมีเสียง แต่อย่าให้วีนนะ ด่าเสียตูบ เลยหล่ะ อันนี้ขอเตือน หุหุ
- ซินดี้ (หลินหลิน) นางเอกประจำแก็งค์ เธอเป็นประเภทอภัยให้เสมอ ไม่ว่าจะเพื่อน มิตร หรือศัตรู สาวหมวย สวย อึม เธอมีความหวังเล็กๆ ในการมานั้น คือ การลดกระชับสัดส่วน และหากิ๊กที่เมืองจีน
- กันกัล (หลิวยายา) คนไม่รู้จักจะหาว่าเธอเงียบ พูดน้อย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ลองสนิทกับเธอสิ ยังกะได้แม่คนที่สองเลยหล่ะ ขอบอก จู่จี้สุดยอด คอยตักเตือนทุกอย่างด้วยความหวังดี สุดๆ เลยจริงๆ
- กิ๊ฟซี่ (ลูลู่) สาวผิวคล้ำ ใจงาม นามน่ารัก เธอเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองพอสมควร ขี้เล่น ชอบแหย่ แสนเง้างอน และสุดเซ็กซี้
- ป้าซูซี่ (ซี่ลี่เหวิน) ที่ปรึกษาปัญหาคาใจ ประจำกลุ่ม เธอคนนี้มักถูกเรียกว่าป้า ก็เธอป้าจริงๆ อ่ะ (ตอนไปนะ) ขากลับสิป้าปิ้งมาเชียว นิสัยดี ดูคนเก่ง แต่ไม่ชอบสุงสิงกับคนแปลกหน้า และก็ชอบแอบไปช็อปกระจายกับลูลู่
- หนูนก (หงส์โต้ว) สาวอีสาน ขี้เหงา เอาดีทั้งความรัก และกีฬา การเรียนก็ใช่ย่อย เธอคว้ากลับมาได้หมด เธอคนนี้ชอบบอกให้เราทำในสิ่งที่เราไม่กล้าทำ มักจะยุว่าทำๆ ไปเหอะ กลับไปแล้วจะไม่ได้ทำนะ
- พีระ (หนานฟาง) คนพูดน้อย แต่กัดเจ็บ หน้าตาก็ธรรมดา แต่ไม่รู้ทำไม ถึงมักจะมีสาวๆ มาติบ่วงพิศวาสเรื่อยเลย มีหลายข่าวลือที่แพร่ออกมา แล้ว ‘he’ ก็ไม่แก้ ชอบปล่อยเลยตามเลย ให้เป็นที่โจษจัน และกังขาในหมู่เพื่อนๆ
- เป้า (เหลาหู่) เด็กสุพรรณดำดีสีไม่ตก แบบว่าหน้าใส ใจสะอาด ซื่อๆ มักทำท่าตลกๆ เรียกรอยยิ้มเพื่อนๆ อยู่เสมอ บ้าจี้ ขี้น้อยใจ แกล้งหยอกได้ แต่อย่าบ่อยเดี๋ยวงอน

Gang Dada แก็งค์คู่อริที่อยู่เอกเดียวกัน
- คุณนายเชิน (ดาด้า) เธอทำตัวเหมือนนางพญา รวยหนักหนา เจ้าของสวนยาง แต่ก่อนเราก็เป็นเพื่อนกันดีหรอก ถ้าเธอไม่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ จริงๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่รุทำไม่เธอถึงจากไป แถมมาโทษพวกเรา (หาว่าเราไล่เธอ งงเลย เราไปทำเธอตอนไหน เธอไปเองแล้วทำไม มากล่าวหากัน)
- จ้อยส์ (ไปย์เว่ย์) ประโยคฮิตของเธอ คือ ออหรอ ชอบยืนกอดอกตีหน้าตาย ไม่ยอมปะทะคารมย์โดยตรง แต่อย่าได้ประมือกับเธอหน่ะดีแล้วมิเช่นนั้นอาจจะทรุดได้ เพราะแรงเธอหาน้อยไม่ แค่เธอกลิ้งมาทับเราก็แย่แล้ว
- น้องน้ำ (ลู้ชิน) เห็นเธอเงียบๆ อย่างนั้นหน่ะร้ายลึกสุดๆ เลย แต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้นะในระดับหนึ่งหน่ะ ถือว่าเธอคบได้หน่อยนึง

Gang Beauty เด็กเอกท่องเที่ยว- หยก (อี้เหม่ย) เธอเก่ง เธอขยัน เธอดูห้าวเหมือนทอม แต่จริงๆ ออกจะหวาน เธอเป็นมิตรกับเพื่อนๆ ทั้งคนไทย และคนจีน อยากบอกว่าเพื่อนชาวจีนที่เธอคบหาด้วยมีไม่น้อยเลยที่เดียว เธอมักจะไปไหนมาไหนกับกลุ่ม แก็งค์ของเธอ บางครั้งคราวก็จะมีเพื่อนชาวจีนอาสา ติดตามไปด้วย (ซึ้งบ่อยมากกกก..........)
- อีฟซี่ (เพิงเสี่ยวลู่) สาวน้อยใส่เหล็กดัด เธอมีผมเป็นลอน ออกยุ่งเหยิง น่ารัก นิสัยดี ถึงไม่ซี้ก็คุยได้ บางครั้งเธอจะแซวใครต่อใครอย่างสุภาพ เรียกว่าหยอกด้วย แต่ไม่เกินขอบเขตสิทธิส่วนบุคคล
- น้อยหน่า (ลู่เสียวพิง) เธอเป็นคนอารมณ์ดี มีน้ำใจ ห่วงใยเพื่อน เป็นคู่ปึกกับอีฟซี่ ในบางทีเธอก็ดูเงียบขรึม เรียกได้ว่าเป็นคนมีหลายอารมณ์ และบุคลิก เธอมักจุกจิกกับเพื่อนๆ เป็นบางเวลา เป็นคนมี Sensitive พอสมควร ฉะนั้นหากไม่ดูอารมณ์เธอให้รู้แน่ชัดเสียก่อน ก็อย่าไปกวนเธอจะเป็นดีที่สุดเลย

Gang 4 Girl เด็กเอกท่องเที่ยว
- แพนดี้ (หมิงเชี๊ยะ) หมวยอารมณ์ร้อน เป็นคนคบได้ ระดับหนึ่ง นิสัยโอ ชอบจุกจิก กินขนมเรื่อยเลย เธอพูดเก่ง เป็นคนมีไหวพริบ เทคแคร์ดี แคร์คน ง้อคน แต่ไม่บ่อย พึงระวังอย่าทำเธอโกรธเพราะจะน่ากลัวมากๆ ถ้าเป็นขั้นเบาๆ คือเธอจะไม่พูดด้วยสักพักหนึ่ง แต่ถ้าเธอเดือดหนักๆ ได้โหยหวนแน่นอน คิดเอาเองว่า สยองแค่ไหน
- เจ้เก๋ (เหม่ยหลิง) สาวชาวใต้ ขยัน อดทน รักเพื่อนพ้อง คราบพี่น้อง
- อ๊อฟฟี้ (จินซิง) บุคลิกเธออาจจะดูห้าวๆ แต่เธอเป็นคนน่ารัก จนใครหลายคนต้องตกหลุมรัก แต่เธอก็เฉยๆ เพราะว่าเธอตั้งใจเรียนมากเลย เที่ยวด้วย กินด้วย เลยโตขึ้นอีกจม
- เตเต้ (หลิงหลง) ชอบโดเรม่อนเป็นที่หนึ่ง รองมาคือหญิงด้วยกัน รักเพื่อนแต่ไม่ติดเพื่อน มักเผลอไปกับแฟนเสียมากกว่า เคยแอบน้อยใจที่เพื่อนๆ ทำเฉย แต่จริงๆ มันไม่ใช่ สาเหตุเพราะอะไรเธอรู้ตัวดี แต่ก็มีแอบเข้าข้างตัวเองว่า ฉันไม่ผิด

Gang Linli เด็กเอกท่องเที่ยว- ซูซู (โหย่วลี้) เธอคนนี้ชอบแสดงตนเป็นคนเก่ง จนน่าหมั่นไส้ (ในบางครั้ง) พึงพาได้ (ในบางคราว) เธอแอบรักคนๆ หนึ่ง เลยชอบมาดูดวงถอดใจ แล้วก็ผิดหวังทุกครั้งไป เพราะเขาไม่สนใจ เธอนั้นเอง
- ยู่ยี่ (จ้าเหมิง) เธอคนนี้ชอบสีชมพู ทุกอย่างที่เธอมี ทุกอย่างที่เธอใช้ มักจะเป็นสีพิ้งค์ เธออยู่ชมรมเทควันโด สายเหลือง อดีตนักกีฬา แต่หลังๆ ไม่รู้ว่าไปทำอะไร เพราะเริ่มจะเห็นเธอไม่บ่อยนักในชมรม
- หญิงใหญ่ (จูคุนยี้) เธอคนนี้ชอบเลียนแบบ แต่แอบมันใจตัวเองอยู่ลึกๆ เธอชอบใช้สุ้มใช้เสียงข่มใครต่อใคร เวลาไม่ได้ดังใจ
- เอนจัง (หวางเฟิง) คนๆ นี้เงียบมากๆ ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครนอกจากเพื่อนในกลุ่มด้วยกันเอง และอาจารย์ที่สอนภาษาจีน ประมาณว่า เป็นพวกตั้งใจเรียนดีระดับหนึ่ง และก็เป็นอีกคนที่ร้ายเงียบ ก็เลยไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วยเท่าไหร่ แต่ก็มีคุยกันบ้าง ซึ้งน้อยมากกกก
- โนนคุง (ซูโหยว) เธอคนนี้ไม่น่าเชื้อว่า จะเป็นทอมบอยเลย แต่เป็นความจริง แล้วแฟนเธอก็น่ารักด้วย เธอมีปัญหาอยู่ที่โรคหัวใจ ทำให้อะไรๆ ดูแย่ๆ ถ้าเธอเกิดความเครียด แต่เธอก็นิสัยดีนะ คบได้ แต่เราก็ไม่สนิทกัน
- ผึ้งน้อย (หมี่เฟิง) ตัวเธอเล็กกว่าเรานิดเดียวเอง ผอมบาง น่ารัก ขี้ใจน้อย น้อยใจ รักเพื่อน ห่วงแฟน ใจกว้าง แต่ก็ไม่มากพอ เพราะสิ่งที่เธอเจอมันสุดทน
- ทราย (ซา) เรียนดี เรียนเก่ง ขยัน ไม่สุงสิงกับใครมากนัก มักอยู่กับหวานใจ และคอยกระตุ้นให้เขาคนนั้น ขยันเรียนเหมือนเธอ

Remainder Men เด็กเอกท่องเที่ยว- พี่เอ็ด (เตียวเหว่ย) คนๆ นี้ มีเพื่อนเยอะแต่ที่สนิทจริงๆ มีไม่มาก เพราะเป็นคนปากร้าย แต่ใจเย็น (ระดับหนึ่ง) เวลาโมโหก็น่าดูชมเชียวหล่ะ เป็นคนรักความเป็นส่วนตัวสูง มั่นใจในตัวเองสุดๆ ใช้แต่ของดีๆ ยี่ห้อดังๆ แต่ถ้าคุณไม่สังเกตไม่รู้หรอกจริงๆ
- พี่แป็ก (ปั่ว อี้ เฟย) คนนี้ค่อนข้างเงียบ แต่เล่นแรง ไม่สุงสิงกับใครนัก พูดน้อย ยิ้มบ่อย กล้าท้ากล้าต่อยกับผู้หญิงจริงๆ เวลาโมโหเลือดขึ้นหน้า
- ชายหนึ่ง (อี้หนาน) คนนี้ปกติดูเงียบนะ แต่ถ้ารู้จักสนิทสนมด้วยแล้ว จะรู้ว่า เขาเป็นคนมีอารมณ์ขันดีระดับหนึ่งเลยที่เดียว เป็นคนที่กล้ารับปากแล้ว ทำจริงตามคำพูด ปกติถ้าเขาไม่สุงสิงอยู่กับเพื่อนๆ (ผู้ชาย-) ก็จะอยู่กับสุดที่เลิฟของเขา หล่ะค่ะ

ก่อนจะไป

ช่วงเวลาก่อนวันเดินทาง ถามว่าตื่นเต้นมั้ย ก็มีบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับหรอกนะ ก็ใช้ชีวิตมันไปตามปกติแหล่ะ มีไปนู้นไปนี้บ้าง เพราะต้องเตรียมอะไรหลายๆ อย่างอ๊ะนะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเสียตังค์ตลอดเลย

อย่างช่วงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ก็มีรายการจ่ายเงินค่าไปเรียนที่จีน 30,000 บาท กับทางมหาลัย...ที่อาจารย์... (ป๊าให้มา 10,000 บาท อีก 20,000 บาทใช้เงินเก็บของตัวเอง ภูมิใจแบบสุดๆ เลย เก็บเองใช้เอง อิอิ..) จากนั้นก็ไปทำพาสปอร์ตที่สำนักงานปิ่นเกล้า จ่ายค่าธรรมเนียมและค่าถ่ายรูป 1,100 บาท เรายังไม่ครบ 20 เลยต้องให้ป๊ากับม๊ามาเซ็นต์ ในวันรับพาสปอรต์ยุ่งยากจิง..จริง...

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ไปตัดสูท กับเพื่อนๆ ที่ตอนท้ายมานั่งบ่นว่า “ฉานตัดมันทำไม เอาของเจ๊อ้วนไปแก้ไซด์ก็จบ เสียไปตั้ง 1,900 ยังไม่ร่วมค่าสักแห้งอีกตะหาก เฮ้อ…เซ็งตัวเอง ซื่อบื้อ” แถมกว่าจะได้ก็ตั้งวันที่ 5 มีนาแหน่ะ เพราะร้านที่ไปตัด มานเลื่อนนัดแล้วเลื่อนนัดอีกเฮ้อ ไปรับสูทมาแล้วก็ ไปแลกเงินหยวนต่อ เค้าว่ามีร้านให้แลกอยู่แถวๆ เยาวราช แต่เดินหาจนตาตุ่มบวมหมดแล้วยังไม่เจอเลย สุดท้ายก็ฝากชาวบ้านไปแลก (เพื่อนข้าพเจ้าเองแหล่ะ อาเค้ารู้จักคนเยอะ เลยไปหาที่แลกให้อ่ะ) แลกมา 1,000 หยวน เท่ากับ 4,750 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนช่วงมีนาคม 2548; 4.75: 1)

วันที่ 6 มีนาคม ไปช็อปกระจายกันที่โบ้เบ้ ตระเวนหาเสื้อกันหนาว ผ้าผันคอ และถุงมือ แล้วก็เสื้อผ้าทั่วๆ ไปตามยุคสมัยและความพอใจของเราเอง ก็หมดไป อีก 900 บาท หลังจากวันนั้นก็มีซื้อของกิน ของใช้อีกเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็มานั่งนับรอวันเดินทาง

ที่แรกก็ว่าจะเอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย เพราะมันถ่ายรูปได้ แต่ป้าเราก็นะขู่จัง พูดนู้นพูดนี้ จนเราเองก็กลัวๆ เกรงๆ ระแวงตามเค้า สุดท้ายก็เลยไม่ได้เอาไป เสียดายสุดๆ เลย เพราะถ้าได้เอาไปนะ เวลาขอเบอร์หนุ่มๆ ก็คงจะได้ Save ลงเครื่อง พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้ดูต่างหน้า เฮ้อ! อดเลย

เชื่อไหมว่าผู้ใหญ่ในบ้านเรา ยกเว้นพ่อ เค้าตื่นเต้น ดีใจยิ่งกว่าเราที่ได้ไปเรียนเสียอีก เม้าท์กันจริง โม้กันจัง ถามโน้น ถามนี้ บางก็สั่งโน้น สั่งนี้ บอกให้ระวังตัว จะทำอะไร จะไปไหน อย่างไปคนเดียว โอ๊ยถึงไม่บอกเราก็ไม่ไปไหนคนเดียวหรอก ยกเว้นเข้าห้องน้ำอ่ะนะ ก็รู้ว่าห่วง แต่ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งดูสิ ถึงขนาดเอาเสื้อทับเราไปติดซิบ เย็บกระเป๋าใส่ กลัวว่าเราจะโดนขโมยเงิน กะให้แบ่งพกเก็บซ้อนไว้ข้างในเสื้อเลยอ่ะดูสิดู อย่างนี้เวลาจะใช้เงินมิต้องมานั่งล้วงเสื้อหรือไงกันนะ

ยังๆ ไม่หมดมีเพื่อนคนหนึ่งเตือนเราว่า หากคิดจะไปเมืองจีน ต้องสอบผ่านให้ได้ 5 ทน ~ 5 ทนที่ว่าคือ
1. ทน คนขากถุยน้ำลาย ไม่เลือกที่ได้
2. ทน พวกสิงห์รมควันได้
3. ทน กับการถูกแซงคิวได้ ข้อนี้เพื่อนเราสันนิษฐานว่าคนจีน (แผ่นดินใหญ่) คงถูกฝึกมาเฉพาะการเข้าแถวหน้ากระดาน
4. ทน กับความไร้ระเบียบ ไร้มารยาทของผู้คนในที่สาธารณะได้ เช่น เรื่องรถ หรือ การพูดจาเสียงดัง
5. ทน ได้กับส้วมจีน และ พฤติกรรมการใช้ส้วมของคนจีน

ฟังดูแล้ว ได้แต่ร้อง โหย! สุดๆ แต่ก็คิดว่ามันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้นมั้ง ถึงจะจริงก็ทนได้แหล่ะ 5ท. นี้ เราคิดว่า ไอ้ที่เจอทุกวันนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรนักหรอก ว่าแล้วก็แพ็กกระเป๋าเตรียมพร้อมลุย สู้ๆสู้ตายค่ะ โอกาสมานั่งรออยู่ตรงหน้า ถ้าไม่รีบคว้าคงเสียดาย หุหุ.

คุณหล่ะพร้อมหรือยังกับอุปสรรคต่างๆ ถ้าพร้อมแล้วก็จงลงมือจัดแจงเก็บข้าวของ เดินทางไปกันเลยห้ามคิดมาก แค่คุณเดินออกนอกบ้านโอกาสและประสบการณ์แปลกใหม่ ก็พร้อมที่จะมาทักทายคุณอยู่เสมอ (จากการได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้คนตามรายทางในระหว่างเดินทาง-ด้วยนิยามที่ว่า อย่ามัวเนียมอายเพราะคุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ฉะนั้น จงใจกล้า หน้าด้านเข้าไว้ You Know..?)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น