2552/10/09

My Diary in China 2003 # 10

วันที่ 26 มีนาคม 2548

เช้าวันนี้อากาศสดใส พื้นดินไม่ชื้นแฉะ เหมือนวันวาน พวกเราพากัน Get Up ตอน สามโมงเช้า ปฏิบัติกิจวัตรแล้วก็รีบหาของรองท้อง (วันนี้นัดกับจินจงไว้ จะไปตะลอนทัวร์ หุหุ) มองไปที่ร้านค้าเห็นอาจงแวบๆ แต่พอลงไปกลับไม่เจอะตัวเป็นๆ พีระเลยเอากีตาร์มาเล่น ส่วนพวกเราก็นั่งร้องเพลงรอ และแล้ว Him ก็มาบอกว่าไปตัดผมมา เดี๋ยวขอไปสระผมก่อนนะแป๊บ พวกเราก็เลยต้องร้องเพลงรอ อีกรอบ
ลมพัดมาเย็นมาก ต้องรี้ไปหยิบเสื้อกันหนาวกับผ้าพันคอ ลูลู่กับกันกัล ทนหนาวไม่ไหวรอจนขี้เกียจไม่อยากไปแล้ว และแล้วก็ได้หม่ำข้าวฟรี เพราะอาจงเลี้ยงขอโทษที่ช้า

แล้ววันนี้ก็พากันตะลุยช็อปเสื้อผ้า หนังสือ ซีดีและอื่นๆ แถวๆ ไป๋ฮั้วซึ่งเป็นห้างที่ด้านบนจะเป็นศูนย์หนังสือใหญ่คล้าย ศูนย์จุฬา ต้องฝากสัมภาระเสียก่อนจึงจะเข้าไปได้ ส่วนตอนจ่ายเงินเขาจะไม่มีถุงให้ต้องเอาบิลกับสินค้าไปให้เจ้าหน้าที่ด้านนอกร้าน (ตรงหน้าประตู) ตรวจสอบปั้มบิลก่อนเขาจึงจะเอาถุงให้

แล้วก็ไปต่อเรื่อยๆ ตอนแรกก็นึกว่าพี่ท่านจะพากลับแล้ว ที่ไหนได้พาไปมหาลัยยูนนานแทน ไปดูเข้าเต้นกัน แล้วก็ไป Say Hi! กับญาติๆ เขา แล้วก็แวบหาย ปล่อยพวกเรายืนเอ๋ออยู่แถวนั้นตั้งนาน ก่อนที่จะชวนไปเต้น เมื่อยมากๆ เป็นชั่วโมงอ่ะ กว่าจะได้กลับ ดูๆ พี่ท่านยังคิดจะพาเดินกลับ จนต้องประท้วงขอขึ้นรถเมล์ (ไม่รู้ว่า Him อยากจะประหยัด หรือชอบเดินกันแน่ ชอบหลอกว่าไม่ไกล แล้วก็พาเดินซ่ะ...เฮ้อ....)

วันที่ 27 มีนาคม 2548

วันนี้ไม่มีอะไรมาก ไม่ค่อยอยากจะไปไหนเพราะโดนหวัดรับประทานเสียแล้ว ก็นั่งทำและตรวจการบ้าน กลิ่งไป กลิ่งมาอยู่ในห้อง นั่งๆ นอนๆ พอบ่ายสามก็ลงไป ไจ้เจี่ยน (อำลา) อาจารย์จันกลับกรุงเทพฯ ได้น้ำพริกมากระปุกหนึ่ง มื้อเย็นก็เลยได้ลิ้มรสไทยๆ อีกครั้ง คิดถึงจัง
(I miss Thai food =_= I miss Thailand.)

วันที่ 28 มีนาคม 2548

เช้าวันจันทร์อากาศดีขึ้นแยะเลย ตื่นมาทำกิจวัตรเสร็จก็ลงไปซื้อน้ำกับซาลาเปากิน แล้วก็ขึ้นเรียน พักเที่ยงก็ไปตายรังที่โรงอาหาร บ่ายเรียนต่อ เย็นก็หม่ำๆๆ แล้วก็ไปดูชาวบ้านเล่นตะกร้อ (เอาลูกวอลเล่บอลมาเล่นกัน เป็นพฤติกรรมไม่ดีเลย ไม่ถูกๆ)

ตอนขึ้นไปเอาลูกขาลงเจอเด็กญี่ปุ่นเต็มเลย กะจะคุยด้วยแล้ว แต่ไม่กล้า ได้แต่มอง ด้วยการเดินแบบ Manman (ช้าๆ-ม่านม้าน) เหอะๆ พอทุ่มหนึ่งก็ไปนั่งเรียนพิเศษ เหมือนเดิม ทำการบ้าน อาบน้ำนอน สามทุ่ม

วันที่ 29 มีนาคม 2548

เช้าวันนี้หิวมากเลยซัดเปาจูไป 2 ลูก (ซาลาเปาไส้หมู) ก่อนเรียน ตารางเรียนก็เหมือนเดิม คาบแรกเรียน อ่านเขียน อาจารย์เข้มมากๆ คาบสองก็เรียนกะอาจารย์ตงหยีว เล่นเกมส์วันนี้เพลอไปหน่อย เลยโดนให้ร้องเพลงเทียนมี้มี้ แต่ให้เพื่อนช่วยได้ เลยให้เป้าช่วย นึกว่าจะได้เรื่อง ที่ไหนได้พากันร้องๆ ลืมๆ ก็ได้อาจารย์ช่วยนั้นแหล่ะถึงได้ร้องถูก ตอนเที่ยงก็ไปซื้อกับข้าวกิน ซื้อกับมาคนละอย่าง บวกลูกชิ้น 1 ไม้ ตอนบ่ายก็ไปเรียนทำอาหาร อุ้ย! คนสอนกับผู้ช่วยเปลี่ยนไปค่ะ แบบว่าคนทำชุดนี้น่าร๊ากๆ ทั้งนั้นเลย วันนี้เรียนทำเกี๊ยวจีน (The North of Dumpling China) อร่อยค่ะ ขอบอกว่า ห่าวชือ (hao chi) เรียนเสร็จไม่รู้จะไปไหน ก็เลยขึ้นห้องตอกตัวเองติดหน้าทีวีที่ฟังไม่ออก แต่ได้ดู ได้เดาภาพก็ยังดี ก่อนจะไปนั่งเฝ้าเพื่อนๆ เล่นบาส ตามด้วยกิน กิน กิน แล้วก็นอน

วันที่ 30 มีนาคม 2548

วันนี้ตื่นสายได้ เพราะคาบแรกไม่ต้องเรียน มีเรียนคาบสอง 10 โมง แต่ก็ต้องไปก่อน เพราะมีเวรทำความสะอาด ก็รีบๆ ไปเลยไม่ได้หม่ำอะไร เที่ยงก็ไปหากินที่โรงอาหารชั้นหนึ่ง ก่อนแวะซื้อขนมปัง
บ่ายวันนี้มีนักศึกษาจีนมาเรียนด้วย มีแต่สาวๆ นะ เป็นคนคุนหมิงมาเรียนจีนกลาง คุยเก่งมาก ตอนเย็นก็ไปนั่งดูเขาเล่นบาสกัน ก่อนกินและนอน

วันที่ 31 มีนาคม 2548

วันนี้เรียนหนักมาก 5 คาบแหน่ะ รู้สึกแย่ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ตื่นเช้ามามันหวิวๆ ชอบกล ตัวก็อุ่นๆ แต่ก็นะบ่ยั่น ไม่อยากขาดเรียนว่าแล้วก็ลุกไปทำกิจวัตร ต่อด้วยซื้อเปากิน พอคาบสองก็เริ่มเคลิ้มออกอาการ แอบพักสายตานิดหน่อย พอเที่ยงก็ไปซื้อข้าวกิน มื้อนี้รอดตายด้วยไข่ดาวและไก่ผัดซอสออกกจะเค็มนิดๆ อิ่มมากๆ จนท้องโตซ่ะ เหมือนคนท้องเลย รู้สึกจะอิ่มจนท้องอืดเลยหล่ะ

พอไปเรียนคาบบ่ายทรมานมาก อยากจะอ๊วก แต่ก็ยังไม่ออก นั่งๆก็ปวดท้องหนักไม่รู้ว่าอะไรจะออกก่อนกัน พออ๊อดพักครั้งแรกดังเลยชวนหนูนกดิ่งไปห้องน้ำกะจะแหวะซ่ะหน่อย แต่เขาพ้นย่าฆ่าเชื้อโรคอยู่เลยเข้าไม่ได้ ก็ต้องกลับมานั่งเรียนต่อ เรียนไปได้สักพักไม่ไหวแล้ว หันไปสะกิดหนูนก ได้ถุงมาสองใบ จอแทบไม่ทัน อ้าย....ออกมาเต็มถุงเลย แต่ศึกนี้ดูจะไม่หมดง่ายๆ ก็ได้หนูนกอีกนั้นแหล่ะที่ยกมือขอเหล่าซือไปห้องน้ำ พร้อมหิ้วถุงเจ้ากรรมออกไปเททิ้งด้วย ไปยืนกอดคอก๊อกน้ำอยู่ตั้งนาน น้ำก๊อกก็เย็นซ่ะ มือซีดมือสั่นไปหมด หมดไส้หมดพุงแล้วก็บ้วนปาก ล้างปาก กลับไปนั่งเรียนต่อก็ตามไม่ทันซ่ะแล้ว สมองมันเบลอ เจอหล่าวซือเรียกตอบคำถามก็เอ๋อเหรอ ไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่ส่งสายตาปริบๆ ปิ้งๆ เหล่าซือขา หนูตอบไม่ได้ สมองมันไม่ทำงานอ่า... เหมือนเหล่าซือจะเข้าใจก็เลยให้นั่งลงได้ เฮ้อ...รอดตัวไป

หมดไปอีกคาบชั่วโมงแห่งความทรมาน วิชาต่อไปจะได้พักแล้ว เพราะไทเก็กเราไม่ต้องเรียนแต่ก็ต้องโพล่หัวไปให้อาจารย์เห็น จะพูดให้ถูกก็คือไปนั่งกินแรงเอ๊ย..นั่งดูเพื่อนๆ เรียนกันหน่ะ ระหว่างทางเด็กกลุ่มอื่นๆ ก็ออกอาการเป็นห่วงมาไต่ถามเป็นไงมั้ง เป็นอะไรมากไหม ดีขึ้นหรือยัง เอ่อมีคนห่วง มีคนสนใจฉันด้วยเหรอ (เพิ่งจะรู้ตัวอ่ะ) แต่ดูวันนี้จะมีคนป่วยแยะเลยหล่ะ มีอาจารย์เบญจมาศมาช่วยคุม อาจารย์ไม่รู้ว่าเราออกกำลังมากไม่ได้ (โดยเฉพาะที่ๆมาความกดดันอากาศแบบเนี๊ยะ-แค่เดินขึ้นอาคารเรียนก็หอบรับประทานแล้วค่ะพี่น้อง) ก็จะให้เราลุกไปเรียน เลยต้องให้เพื่อนๆที่รักทั้งหลายช่วยอธิบาย เพราะเราพูดไม่ไหว แต่ที่แน่ๆ วันนี้พกเครื่องมือพร้อม ก็มานั่งจดๆ วาดๆ ที่เหล่าซือเฉินสอน แต่เอ๊ะทำไมท่ารำมันแปลกๆ ไหงมีท่าชกด้วยหล่ะ มันเหมือนท่าขี้ม้าชกของเทควันโดเลยอ่า...งง แต่ก็เอาเถอะวาดๆไป

พอเรียนเสร็จก็ไปถามเหล่าซือเฉินเกี่ยวกับการสอบ ให้อาจารย์เบญช่วยพูดว่า อย่างเราไม่ได้เรียนด้วยแล้วจะสอบยังไง วาดรูปส่งได้ไหม แล้วก็ยื่นสมุดจดให้หล่าวซือดู เหล่าซือเฉินก็ยิ้มๆ แล้วบอกว่า
“ผมยังให้คำตอบไม่ได้ต้องปรึกษาหัวหน้าก่อน”
ยัยยู่ยี่มาเห็น ก็ว่า “แหมที่เทควันโดทำไมเล่นได้หล่ะ ไทเก็กเบากว่าตั้งเยอะก็น่าจะเล่นได้นะ”
เราไม่จะตอบยังไงก็เลยเงียบๆ ไว้ โหยวลี่ก็ว่า “ขี้เกียจอ่ะดิ”
ไม่รู้ว่าเหล่าซือเฉินกับอาจารย์เบญจะได้ยินไหม แต่หน้าเราเนี๊ยะบอกได้เลยว่าเพล้ง แตกยับ เสียหน้าสุดๆ จนต้องรีบเดินหนีออกมากะพวกอี้หลิน เพราะเพื่อนเรามานหายหัวไปกันหมดแล้ว กลับมาเล่าให้ป้าซูซี่ฟัง ป้าเดือดใหญ่เลย แต่สุดท้ายก็ระงับอารมณ์ไว้ได้ แบบว่าไม่อยากมีเรื่องอ่ะ หนูนกก็กำลังจะไปกินข้าว ว่าแล้วก็ฝากซื้อข้าวผัดกับน้ำเกลือแร่มาชูกำลัง กินหาร2กับป้าเสร็จแล้วนั่งดูหนังรอ 1 ทุ่ม ลงไปเรียนพิเศษ

เพลียสุดๆ เลย อยากนอนไวๆ ก็ต้องรอให้สามทุ่ม เลิกเรียนปุ๊บก็รีบขึ้นห้อง เช็ดเนื้อเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอนทันทีเลย เฮ้อ...เหนื่อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น