ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การหาเงินบนอินเตอร์เน็ต
หลายๆท่านที่เข้ามาอ่านใน Blog นี้คงต้องการที่จะมีรายได้ จากอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น รายได้เสริม หรือ จะทำเป็นอาชีพหลัก ก็ดี
ขั้นแรกของการหาเงินบนโลกอินเตอร์เน็ต นั่นคือการปรับทัศนคติในการทำงานบนโลกอินเตอร์เน็ตนั่นเอง
หลายๆคนคงคิดว่าการหาเงินบนโลกออนไลน์ที่มองไม่เห็นนี้มันทำได้จริงหรือ ส่วนใหญ่ก็จะเจอแต่พวกหลอกหลวงซะมากกว่า ไม่ว่าจะมาในรูป Spam Mail หรือ อีเมล์ขยะ ต่างๆ พวกทำงานอย่างมดบ้าง หรือ ทำงาน Part time ผ่านเน็ท ซึ่งถ้าได้รับ E-mail อย่างนี้ มั่นใจได้เลยครับว่า ท่านกำลังเจอ Herbalife ค่ะ
ในโลกออนไลน์นั้น มีทั้งการทำงานที่ได้เงินจริง และ ได้เงินไม่จริงค่ะ ตัวเล็กเองก็ลองผิด ลองถูกมาพอสมควร จะเล่าให้ฟังนะค่ะ
1.MLM ธุรกิจเครือข่าย มีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายหลายบริษัท ที่ทำแล้วรุ่งก็มี ที่ดับก็มาก ต้องรู้จักพึงพาอาศัยกันและกัน ทำงานเป็นทีม ถ้าเจอหัวหน้าดี คนในทีมจริงใจ บริษัทมันคง มีความน่าเชื่อถือ ก็โชคดีไป ก็ขึ้นอยู่กับพิจารณของแต่ละคนค่ะ ที่กำลังมองๆ และทดลองอยู่ตอนนี้ก็
1.MLM ธุรกิจเครือข่าย มีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายหลายบริษัท ที่ทำแล้วรุ่งก็มี ที่ดับก็มาก ต้องรู้จักพึงพาอาศัยกันและกัน ทำงานเป็นทีม ถ้าเจอหัวหน้าดี คนในทีมจริงใจ บริษัทมันคง มีความน่าเชื่อถือ ก็โชคดีไป ก็ขึ้นอยู่กับพิจารณของแต่ละคนค่ะ ที่กำลังมองๆ และทดลองอยู่ตอนนี้ก็
2.ตอบแบบสอบถาม อันนี้อยู่ในช่วงทดลอง เว็บที่ได้จริงก็มี แต่ต้องอาศัยความอดทน เพราะแบบสอบถามบางตัวยาวมาก แต่ถ้าเราไม่เข้าข่ายก็จะจบอย่างรวดเร็ว
3.พวกให้โหลด banner มาเดินๆ หรือคลิกโฆษณา อันนี้ต้องอาศัยความอดทนเป็นอย่างมากกว่าจะได้มา ต้องขยัน คลิ๊กๆๆๆ ที่เด่นๆ ของไทยเราก็ ไทยแอดพอย์ และ PTC ค่ะ
4.ขาย เงิน+ไอเทม ในเกมออนไลน์ อันนี้ตัวเล็กไม่เคยลอง แต่มีคนบอกว่า "สำหรับคนที่เล่นเกมบ่อยหรือเป็นหลักอันนี้ยังพอทำเงินได้บ้างครับ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ชอบทำนะครับ กับอีกกลุ่มนึงคือพวกเปิด Bot(โปรแกรมช่วยเล่น) หาของ หาเงิน อันนี้พอเรียกว่าคุ้มค่าบ้าง แต่ก็เฉพาะช่วงแรกๆนะครับ หลังๆท่านจะเจอวิกฤตเงินเฟ้อจาก 1 M(ล้าน) = 300-500 บาท อาจจะเหลือแค่ 1 M = 1 บาทได้ครับ"
5. E-commerce หรือ ร้านค้าออนไลน์ ก็เหมือนร้านขายสินค้าทั่วไปค่ะ เพียงแค่ยกร้านมาไว้บนอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสินค้าและการหาลูกค้า ละค่ะ อย่างพี่สาวตัวเล็กเองก็ทำอยู่ ลงทุน สู้มาได้ปีกว่า ตอนนี้ก็เริ่มอยู่ตัว ได้กำไรแล้วค่ะ ถ้าอยากลงสินค้าให้ได้มากๆ ก็ต้องเสียเงิน แต่ถ้ามีของน้อยสมัครแบบฟรีก็ได้ค่ะ เลือกโฮทดีๆ จะช่วยในเรื่องความน่าเชื่อถือ และเปอร์เซ็นต์ลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้น หรือขยันโฆษณาตามบอร์ด และอัพเดทเว็บเรื่อยๆ ก็มีส่วนค่ะ
ตัวอย่างเว็บเด่นๆ
http://www.amazon.com/http://www.sanook.com/
http://www.tarad.com/
http://www.thaisecondhand.com/
http://www.2home.com/
6. E-BAY หรือ web โพสสินค้าต่างๆ ไม่ต่างจากข้างบนเท่าไหร่ค่ะ หาสินค้าไปประมูลหรือขายแต่ไม่จำเป็นต้องมีเวปเอง ได้เงินแน่ถ้าจับสินค้าถูกตัว
7.แชร์ไฟล์ได้ตังค์ พวก เวปแชร์ไฟล์ทั้งหลายนั้น ziddu hotfile keawshare อะไรประมาณนั้นอันนี้ ว่ากันว่าขึ้นอยู่กับ ความขยันในการหาไฟล์ที่คนสนใจมาให้คนโหลด เพลง หนัง e-book หรืออะไรต่างๆ ก็จ่ายเงินจริงนะ น้อยบ้างมากบ้างตามความขยันในการหาไฟล์และการหาคนโหลด และก็ลองตามข่าวสารดีๆบางที่จ่ายช้า หรือ ตัวเลือกในการจ่ายเงินต่างกัน ดูข้อกำหนดดีๆ ก่อนจะเลือก ตัวเล็กยังไม่เคยลองค่ะ
8.Affiliate ก็คือการที่บริษัทหรือเจ้าของสินค้านั้นๆ อนุญาตให้เราไปร่วมเป็นผู้ขายสินค้านั้นๆ โดยจะแบ่ง comission ให้ถ้าเกิดมีการซื้อสินค้า หรือ บริการ โดนผ่านการแนะนำจากเรา ถ้าเอาตามภาษาง่ายๆก็คล้ายๆนายหน้า หรือ พ่อค้าคนกลาง เพียงแต่เราเป็นคนกลางที่พา ลูกค้ามาให้เจ้าของสินค้านั้นๆค่ะ ที่คนไทยรู้จักและนิยมกันก็เช่น Amazon CJ ClickBank หรือพวกเวปจองโรงแรม จองทัวร์ เช่ารถ เป็นต้นค่ะ ปัจจุบันหนังสือหรือข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมากค่ะ ไปเดินดูตามร้านหนังสือใหญ่ๆได้เลยค่ะหมวดคอมพิวเตอร์ หรือ ธุรกิจ เรื่องรายได้ก็แล้วแต่ความเข้าใจในการทำงานค่ะ แต่ก็ขอบอกว่ามีคนไทยที่สร้างรายได้หลักแสนจนถึงสิบล้านนะค่ะ
9.Adsense ระบบโฆษณาของ Google ค่ะ ชื่อเจ้าของบริษัทคงการันตีได้อยู่แล้วว่าจ่ายจริงสร้างเงินได้จริง ลองเปิด Google แล้วหาคำว่า ซื้อบ้าน ค่ะ จะเห็นโฆษณาที่ปรากฏขึ้นด้านบนและด้านขวาของหน้าจอ นั่นแหละค่ะ รายได้หลักของ Google จะได้หายสงสัยว่าบริษัท Google ให้บริการฟรีแทบทุกอย่าง เอาตังค์ที่ไหนซื้อ Youtube ราคา 62,700 ล้านบาท และ DoubleClick ราคา 111,600 ล้านบาท (อ่านไม่ผิดค่ะ แสนล้าน!!!) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะ Google เข้าตลาดหุ้นด้วยนะค่ะ
Google มีรายได้โดยการให้คนสามารถมาลงโฆษณาในหน้าการค้นหาของตัวเอง เรียกว่า Adword โดยถ้ามีคนคลิกโฆษณานั้นๆ คนลงโฆษณาก็จะเสียเงินให้ Google ค่ะ
Adsense ก็คือระบบต่อเนื่องจาก Adword ค่ะ โดยให้คนที่มีเวปไซต์สามารถสมัครกับ Google เพื่อนำโฆษณาจาก Adword มาติดในเวปเราได้โดยหากมีการคลิกผ่านเวปไซต์ของเราก็จะทำให้ Google ได้ค่าโฆษณาและจะแบ่งเงินส่วนนั้นมาให้เราค่ะ รายได้ก็แล้วแต่ความสามารถเช่นกันค่ะ แต่คนไทยก็มีที่รายได้ระดับ 10ล้าน นะค่ะ (แอบไปรู้มาค่ะ)
--------------------------------------------------------------
ข้อดีของการทำงานบนเน็ต
ลองมาดูแรงจูงใจกันบ้างว่า การทำงานบนเน็ตนั้นมันดีอย่างไรค่ะ
1.จำนวนลูกค้ามากมายมหาศาล
บนโลกอินเตอร์เน็ตนั้น คุณสามารถติดต่อค้าขายหรือทำธุรกิจกับคนได้ทั่วทั้งโลก และยังทำงานได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน เรียกว่าไม่มีข้อจำกัดในการทำงานเลย และ จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนั้นก็มีปริมาณมากขึ้นตลอดจากเทคโนโลยีที่พัฒนาเรื่อยๆค่ะ
2.เวลาในการทำงาน
การทำงาน หาเงินบนเน็ตนั้นเรียกว่า คุณทำเวลาไหนก็ได้ ไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีข้อผูกมัดในการทำงาน
3.สถานที่ในการทำงาน
ณ ปัจจุบันนั้น เรียกว่าที่ไหนมีเน็ต คุณก็สามารถทำงานได้ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านกาแฟ แมคโดนัลด์ หรือ ทะเล ภูเขา ก็ตามขอแค่คุณเชื่อมต่อสู่อินเตอร์เน็ตได้ก็ไม่มีอะไรมาขัดขวางคุณ
4.ไม่มีใครใหญ่กว่าคุณ
การทำงานหารายได้ผ่านเน็ตนั้น คุณก็คือเจ้าของ ไม่มีใครใหญ่กว่าคุณ ทุกอย่างที่คุณคิด สามารถลงมือทำได้เดียวนี้
5.รายได้ไม่จำกัด
คุณสามารถสร้างรายได้ไม่จำกัด จาก การหาเงินบนเน็ต ไม่เหมือนการรับเงินเดือน ซึ่งทำมากคุณก็ได้มาก ทำน้อยคุณก็ไ้ด้น้อย (แต่ก็มีทางที่ทำน้อยได้มากเหมือนกัน
6.ความสามารถในการหาข้อมูล
แน่นอนครับ โลกในยุคปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร ซึ่งใครมีข้อมูลข่าวสาร ก็สามารถสร้างเงินได้ไม่ยาก และ โลกอินเตอร์เน็ตนั้นข้อมูลมากมายสามารถหาได้ไม่ยากเลย
7.ทุนเริ่มต้น
ของฟรีไม่มีในโลก แต่ในอินเตอร์เน็ตนั้น ของฟรี มีจริงๆครับ นั่นก็ทำให้ทุนในการทำงานของคุณต่ำลงมาก จนเรียกว่า จะใช้ของฟรีทำเงินก็ยังได้ ถ้าต้องการ สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือเวลา และความรู้ นั่นเอง
-----------------------------------------------------------------
อิสรภาพทางการเงินของแท้
โดย จักรพงษ์ เมษพันธุ์
“อิสรภาพทางการเงิน” หรือ Financial Freedom เป็นคำที่ฮิตและนิยมพูดถึงกันมากในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าในปัจจุบัน เด็กรุ่นใหม่พอเรียนจบปุ๊บก็เริ่มร้องหาคำๆนี้กันทันทีตั้งแต่เริ่มทำงาน
โดย ส่วนตัวจำความได้ว่า คำๆนี้เป็นที่ถวิลหาของทุกคน ไม่นานนักหลังจากที่หนังสือพ่อรวยสอนลูกของโรเบิร์ต คิโยซากิ ออกวางจำหน่ายในเมืองไทยราวปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) โดยนิยามที่คิโยซากิให้ไว้สำหรับคำว่า อิสรภาพทางการเงิน ก็คือ การที่ คนเรามีรายได้จากทรัพย์สิน (ตราสารการเงิน อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ และอื่นๆ) มากกว่ารายจ่ายรวม
ฟัง ดูแล้วก็ไม่ น่าจะยากเย็นอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ง่ายอย่างที่คิด แถมคนส่วนใหญ่ยังชอบทำให้มันเป็นอะไรที่เกินเอื้อม โดยมองข้ามอิสรภาพทางการเงินที่ทำได้ง่ายๆใกล้ตัว
จริงๆแล้ว คำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” นั้น ประกอบด้วย 3 ส่ิงสำคัญรวมอยู่ด้วยกัน ได้แก่ รายได้ เวลา และอิสระในการเลือก เพื่ี่อให้ได้มา ซึ่งสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต นั่นก็คือ “ความสุขแท้” (ไม่ เทียม ไม่ปรุงแต่ง) และมันจะเรียกว่าอิสรภาพทางการเงินไม่ ได้เลย ถ้าขาดสิ่งใดส่ิงหนึ่งในสามสิ่งนี้ไป
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ยังตีความหมายและองค์ประกอบของอิสรภาพทางการเงินแบบหลงทาง ทำให้ท้ายที่สุด มัวแต่เสียเวลาอยู่กับมัน และคิดเอาเองว่ากำลังเดินทางสู่อิสรภาพทางการเงิน โดยที่ไม่เคยลองหยุดคิด หยุดดู หรือหยุดถามตัวเองเลย
เพื่อให้ท่านมองเห็นและเข้าใจ คำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" กันดีขึ้น วันนี้ผมมีคำอธิบายความที่ตกผลึกจากการเดินทางบนเส้นทางนี้มากว่า 10 ปี แลกเปลี่ยนกันครับ
1.รายได้
หาก เล่นกันตามตำรา 100% เงินหรือรายได้สำหรับการมีอิสรภาพทางการเงินนั้น ไม่ได้หมายถึงรายได้อะไรก็ได้ จากไหนก็ได้ แต่จะต้องเป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สิน หรือ Passive Income นัยว่าต้องเป็นรายได้ที่ยังคงได้รับแม้ว่าจะหยุดหรือไม่ได้ทำงานด้วย คำว่า “หยุดทำงานได้” นี่กระมัง ที่ทำให้คนเรามองว่ารายได้ที่จะต้องมาสนับสนุนอิสรภาพทางการเงินนั้น จะต้องมากมาย (หรือแยะ) ในความเป็นจริงแล้ว ถ้ามองโจทย์ดูดีๆ ก็จะพบว่า โจทย์ที่แท้จริง คือ “รายจ่าย” ไม่ใช่รายได้ ดังนั้นคนที่อยากมีอิสรภาพทางการเงินต้องตั้งโจทย์ให้ถูกเสียก่อนว่า รายจ่ายที่ตรงกับไลฟ์สไตล์เรานั้นเป็นเท่าไหร่
สังเกต จะเห็น ว่าผมขีดเส้นใต้คำว่า “ไลฟ์สไตล์เรา” หรือรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ต้องการ เพราะมันต้องเป็นของเราจริงๆ เป็นสิ่งที่เราคิดได้เอง ไม่ใช่ยืมคนอื่นมา บ้านหลังใหญ่ รถยนต์คันงาม ท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่อยู่ในความคิดของเรามาโดยตลอด อาจเป็นรายจ่ายที่มาจากฝันที่หยิบยืมมาจากคนอื่นก็ได้ ดังนั้นต้องนั่งลงคุยกับตัวเอง คุยกับคนที่รัก แล้วออกแบบไลฟ์สไตล์ของตัวเองจริงๆ เพื่อนำไปสู่รายจ่ายที่เป็นโจทย์ของอิสรภาพทางการเงินของคุณเอง
ไม่แน่นะครับ ถ้าคุณได้นั่งคุยกับตัวเองจริงๆ คุณอาจพบว่า โจทย์ของอิสรภาพทางการเงินของคุณง่ายกว่าที่คาดคิดไว้ก็ได้
2. เวลา
คน ส่วนใหญ่เชื่อกันว่า ที่ทุกวันนี้คนเราต้องดิ้นรนทำงานหนักกัน ก็เพราะเพื่อต้องการให้มีเงิน และเมื่อมีเงินก็จะมี “เวลา”ตามมา ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นก็จะสามารถใช้เวลากับคนที่เรารักและสิ่งที่เรารักได้
คำถามคือ แล้วถ้าสุดท้ายแล้วไอ้เจ้าเป้าหมายด้านรายได้ของคุณมันไปไม่ถึงจุดที่ต้อง การหละ จะทำอย่างไร? แล้วทำไม? “เวลา” ต้องเดินตามหลัง “เงิน” มันอยู่ข้างหน้าหรือไปด้วยกันได้ไหม
ทำไม? ต้องมีเวลากับลูก กับคนที่เรารักน้อยลงเพื่อเงิน ใช้เวลา 10 ปี 15 ปี เพื่อให้ได้เงิน ถ้าได้ตามเป้าหมายจริงๆ แล้วจะมีเวลาให้สิ่งที่รักจริงหรือเปล่า หรือว่าก็ต้องทำงานหนักต่อ เพราะอยากได้เงินเพิ่ม แล้วถ้าไม่ได้หละ เวลาที่สูญเสียไปกับการตามหารายได้ จะคืนให้คนที่รัก และส่ิงที่เรารักได้อย่างไร
ในมุมมองของผม คนที่จะประสบความสำเร็็จมีอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง ควรแบ่งเวลาให้กับทุกมิติอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ คือ “มี ความสุข”
ถ้าคุณได้ลองจัดแบ่งเวลาดีๆ คุณจะพบว่า เวลา เพียงแค่ 10% ของแต่ละวัน ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จมีอิสรภาพทางการเงิน ดัง นั้น จงอย่าเสียเวลากับกับเงินและความสำเร็จให้มากไปกว่านั้น เอาเวลาที่เหลือไปอยู่กับคนที่เรารัก และสิ่งที่เราชอบดีกว่าครับ
3. อิสระในการเลือก
ด้วย เหตุที่เอา “เงิน” เป็นตัวตั้ง คนเราจึงต้องยอมทำอะไร หรือยอมเป็นอะไรที่ตัวเองไม่ชอบ เพียงเพื่อให้มีเงินมีรายได้ ซึ่งนั่นเป็นส่ิงที่ไม่สนุกเลย บางคนเชื่อว่า คนเราทุกคนต้องยอมทำในสิ่งที่ไม่ชอบก่อน แล้วจึงจะได้สิ่งที่ชอบในภายหลัง จริงหรือที่ชีวิตต้องเป็นอย่างนั้น
ในมุมมองของผม คำว่าอิสรภาพทางการเงิน จะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าเราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ เป็นในส่ิงที่ไม่อยากเป็น ดังนั้น ต้องถามตัวเองให้ดีก่อนว่า การที่คุณเลือกทำ เลือกเป็นไม่ได้ในวันนี้ เป็นเพราะพันธนาการอะไรที่คุณสร้างไว้หรือเปล่า ซึ่งมันอาจเป็นพันธนาการทางความคิด พันธนาการทางการเงิน หรืออะไร ก็ตามที่รั้งโอกาสในการเลือกของคุณไว้ ไม่ได้คุณได้เป็น ได้ทำ ในส่ิงที่ต้องการ
จะเห็นได้ว่าปัญหาของคนที่ดำเนินชีวิตเพื่อ อิสรภาพทางการเงินนั้น เกิดจากสาเหตุง่ายๆก็คือ จัดลำดับส่ิงสำคัญในชีวิตผิด เพราะเลือกเรียงลำดับจาก รายได้ – เวลา – อิสระในการเลือก
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากคนต้องการพบอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง ท่านจะต้องเรียงลำดับองค์ประกอบเสียใหม่เป็น
อิสระในการเลือก – เวลา – รายได้
สร้าง อิสระในการเลือก โดยไม่สร้างพันธนาการทางการเงิน กำหนดจัดสรรเวลาให้กับทุกส่ิงทุกอย่าง และทุกมิติรอบตัว จากนั้นก็ทำในส่ิงที่รักเพื่อสร้างมันให้เป็นทรัยพ์สิน อันจะสร้างกระแสเงินสดให้กับชีวิตของเราได้ต่อไป ภายใต้เป้าหมายสำคัญ คือ “มี ความสุขตลอดการเดินทาง”
เพียงเท่านี้อิสรภาพทางการ เงินก็จะอยู่กับท่านได้ตั้งแต่เริ่มเดินทาง ระหว่างเดินทาง ไปยันถึงปลายทางของชีวิตแล้ว
“อิสรภาพทางการเงิน เริ่มต้นได้เมื่อใจคุณมองเห็น”
และสิ่งที่ผมเลือกเพื่ออิสรภาพทางการเงินของผมก็คือ Internet Marketing หรือ การหาเงินทางเน็ต เพื่อ รายได้ออนไลน์ นั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น